Menu
สายด่วนบริการลูกค้า : 02-692-8404-12

หน้าแรก / ข่าวสาร

รู้จักแอลกอฮอล์ "เชื้อเพลิง" กับ "การแพทย์" ที่ใช้สู้ COVID-19 ชื่อเหมือนกันแต่ใช้ไม่เหมือนกัน

17/03/2020

     ในช่วงที่ COVID-19 ระบาดอย่างหนัก ตอนนี้หลายๆคนก็ต่างต้องการเครื่องมือช่วยป้องกันไวรัสตัวร้ายตัวนี้ ทั้งหน้ากากอนามัย รวมถึงผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ผลิตจากแอลกอฮอล์จนทำให้สิ่งเหล่านี้เริ่มขาดแคลน
     แต่หลายคนก็บอกว่าทำไมไม่เอาสิ่งนู้นสิ่งนี้มาใช้แทนล่ะทั้งที่มันก็เรียกเหมือนกันก็คงมีคุณสมบัติเหมือนกัน เช่นแอลกอฮอล์ที่เรานำมาใช้ในด้านพลังงาน วันนี้เราเลยจะพามารู้จักแอลกอฮอล์ชนิดนี้กันว่า “ชื่อฉันเรียกเหมือนกัน แต่ฉันใช้ไม่เหมือนกันนะ”

 

แอลกอฮอล์ที่ใช้ผสมเป็นเชื้อเพลิง
     สำหรับแอลกอฮอล์ที่ใช้เป็นเชื้อเพลิง คนมักเรียกว่า “เอทานอลแปลงสภาพ” มีความบริสุทธิ์ไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 99.5 โดยปริมาตร และต้องมีการแปลงสภาพด้วยน้ำมันก่อนขนส่งออกจากโรงงาน ตามประกาศกรมสรรพสามิต

• ใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตน้ำมันแก๊สโซฮอล์ชนิดต่างๆ
• เป็นสารเพิ่มค่าออกเทนในน้ำมันแก๊สโซฮอล์
• มีน้ำมันเบนซินเป็นส่วนผสม จึงไม่สามารถนำไปใช้ทางการแพทย์ได้

 

แอลกอฮอล์ที่ใช้ในทางการแพทย์
      แอลกอฮอล์ในทางการแพทย์ มีหลายชนิด ความเข้มข้นที่นิยมใช้อยู่ในช่วง ร้อยละ 60-90 โดยปริมาตร เช่น แอลกอฮอล์ ที่มีส่วนผสมของเอทานอล ร้อยละ 80 โดยปริมาตร และ ไอโซโพรพานอล ร้อยละ 5 โดยปริมาตร จะสามารถยับยั้งไวรัสที่มีเยื่อหุ้มได้

• ฆ่าเชื้อไวรัสได้
• ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์
• นำไปเป็นส่วนผสมของเจลล้างมือ (ต้องใช้แอลกอฮอล์ร้อยละ 70 โดยปริมาตร ขึ้นไป)

 

      โดยบริษัทผู้ค้าน้ำมันในประเทศไทย ปัจจุบันมีสต็อกเอทานอลแปลงสภาพ ซึ่งไม่ใช่แอลกอฮอล์ที่ใช้ในทางการแพทย์ แต่เพื่อใช้ผลิตเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง เอทานอลที่ผู้ค้าน้ำมันซื้อออกจากโรงงานผู้ผลิตเอทานอลต้องได้รับการแปลงสภาพ (Denature) ตามกฎหมาย ด้วยการผสมน้ำมันเบนซินก่อน ซึ่งเป็นกระบวนการควบคุมของรัฐ เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่สามารถนำมาใช้ในวัตถุประสงค์อื่นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใช้ในการบริโภคและเชิงทางการแพทย์ นอกจากนั้น ผู้ที่สามารถซื้อเอทานอลเพื่อนำไปทำเจลแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อต้องเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายด้วย
       อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา กรมสรรพสามิตได้ยกเว้นภาษีเป็นการชั่วคราวให้กับโรงงานผลิตเอทานอล ซึ่งตามปกติแล้วต้องเสียภาษีสรรพสามิตเมื่อส่งเอทานอลให้แก่โรงงานสุรา เพื่อเปิดทางให้โรงงานเหล่านั้นสามารถส่งเอทานอลให้แก่กลุ่มผู้ผลิตยา เครื่องสำอาง และสมุนไพร ที่จะนำไปใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบได้ เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนดังกล่าว