หน้าแรก / ข่าวสาร
อาจเป็นเรื่องที่ตกใจหากเรารู้ว่าการที่เราปรับเปลี่ยนนิสัยในการบริโภคอาหารจะเป็นการช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ ซึ่งฟังแล้วอาจจะงงว่าเกี่ยวกันได้อย่างไร
โดยล่าสุดคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก (IPCC) เผยแพร่รายงานที่ศึกษาโดยนักวิทยาศาสตร์ 107 คน ในการประชุมที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ว่า การบริโภคเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ในประเทศตะวันตกที่มีปริมาณสูงมาก เป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน
อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า ปัจจุบันประเทศตะวันตกบริโภคเนื้อสัตว์เยอะมากเกินไป พวกตนไม่ได้เรียกร้องให้ผู้คนเปลี่ยนมาบริโภคแบบมังสวิรัติ แต่หากสามารถลดการบริโภคเนื้อสัตว์ได้จะทำให้ลดการใช้ที่ดินลงและช่วยลดภาวะโลกร้อนได้
แล้วโลกร้อนเกี่ยวกับการกินเนื้อสัตว์ได้อย่างไร จากผลการวิจัยพบว่า การผลิตอาหารของมนุษย์ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน กินสัดส่วนถึง 1 ใน 4 ของปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยออกมา มากกว่าครึ่งของก๊าซเรือนกระจกจากอาหารที่เรากินมาจากผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ ฟาร์มสัตว์ที่ผลิตเนื้อวัวและเนื้อแกะ รวมถึงสิ่งของที่เหลือจากการกินหรือไม่ถูกใช้ ซึ่งการเลี้ยงปศุสัตว์ทำให้โลกร้อนด้วยการปล่อยก๊าซมีเทน รวมถึงทำให้พื้นที่ป่าลดลงจากการรูปแบบการเลี้ยงแบบปล่อยทุ่ง องค์กรคอมแพชชั่น อิน เวิลด์ฟาร์มมิ่ง ซึ่งเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม ระบุว่า การลดการบริโภคเนื้อสัตว์เป็นสิ่งจำเป็นหากต้องการลดปัญหาด้านสภาวะภูมิอากาศให้ได้ตามเป้า อย่างไรก็ตาม ในบางประเทศอย่างจีน การกินเนื้อวัวกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น แม้ว่าจะมีความพยายามจากรัฐบาลจีนในการส่งเสริมให้กินอาหารพื้นถิ่น
รายงานของสหประชาชาติ ยังกระตุ้นให้หยุดการบริโภคอาหารแล้วเหลือทิ้ง ทั้งในขั้นก่อนและหลังที่จะขายให้กับผู้บริโภค ตัวอย่างของการลดการเกิดอาหารที่ไม่ถูกบริโภค อาจนำไปใช้เลี้ยงสัตว์ หรืออาหารตามร้านค้าที่ขายไม่หมดควรบริจาคให้กับผู้คนที่จำเป็น เช่น ที่สวิตเซอร์แลนด์มีองค์กรที่นำอาหารจากร้านค้าต่าง ๆ ที่ขายไม่หมดและกำลังจะถูกทิ้ง นำไปส่งต่อให้กับครอบครัวในท้องถิ่น วิธีการเหล่านี้จะช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อันเกิดจากกระบวนการผลิตอาหาร
ที่มา : BBC