Menu
สายด่วนบริการลูกค้า : 02-692-8404-12

หน้าแรก / ข่าวสาร

“ก้นบุหรี่”ภัยร้ายตัวเล็กแห่งท้องทะเล

10/10/2019

            มลภาวะในท้องทะเลถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ควรสนใจเป็นอย่างยิ่ง หากพูดถึงข่าวเกี่ยวกับขยะในท้องทะเล คนทั่วไปก็จะนึกถึง หลอดพลาสติก ขวดพลาสติก ถุงพลาสติก ซึ่งเหล่านี้มักถูกหยิบยกมาเป็นปัญหาให้เห็นตามสื่อทั่วไปอยู่เสมอ แต่แท้จริงแล้วยังมีขยะอีกอย่างหนึ่งที่ดูเล็กน้อยจนหลายคนมองข้ามไป แต่กลับเป็นหนึ่งในขยะที่สร้างปัญหาให้กับท้องทะเลมากซะเหลือเกินนั่นคือ “ก้นบุหรี่”
            ขยะเล็กๆอย่าง “ก้นบุหรี่” อาจจะขนาดเล็กเมื่อเทียบกับท้องทะเล และดูเหมือนไม่มีอันตรายใดๆ จากสายตามนุษย์ที่ไม่สนใจคงคิดว่าคงจะย่อยสลายได้ง่ายๆ แต่หากคุณคิดแบบนั้นก็ถือว่าผิดแล้ว เพราะภัยของเจ้าก้นบุหรี่มันส่งผลกระทบต่อทะเลและสัตว์ทะเลมากกว่าที่ใครหลายๆ คนคาดคิด ในแต่ละวัน ก้นบุหรี่ ถูกปล่อยทิ้งลงท้องทะเลเป็นจำนวนมาก
            จากการเปิดเผยของ องค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติและท้องทะเล (Ocean Conservancy) ตั้งแต่ที่พวกเขาได้ก่อตั้งองค์กรและจัดกิจกรรมดูแลความสะอาดท้องทะเล ชายหาดของทั่วโลกมาตั้งแต่ปี 2529 พบว่า หนึ่งในขยะที่พวกเขาเก็บได้มากที่สุดคือ “ก้นบุหรี่” ที่รวมๆแล้ว 60 ล้านชิ้น ซึ่งแน่นอนว่า ปริมาณของก้นบุหรี่เหล่านั้น มีมากกว่าถุงพลาสติก พลาสติกห่ออาหาร กล่องโฟม ขวดพลาสติก หรือกระทั่ง หลอดพลาสติก มากมายหลายเท่านัก คิดเป็น 1 ใน 3 ของขยะที่เก็บได้ทั้งหมด
            ที่ขยะก้นบุหรี่เยอะแบบนี้ก็เพราะเหตุผลที่มันมักถูกมองข้ามจากคนทั่วไป โดยคิดเพียงว่ามันมีขนาดที่เล็กมาก และดูน่าจะย่อยสลายได้ง่ายกว่าพลาสติก ยังไม่นับรวมการที่พวกเขาทิ้งมันลงบนพื้นถนน แล้วพอฝนตก สายฝนก็ค่อยๆ พัดพาพวกมันลงแม่น้ำลำคลอง แล้วถูกพัดลงไปที่ท้องทะเลอีกที อาจเป็นเพราะความมักง่าย ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ก็มีผู้สูบบุหรี่จำนวนมากเหลือเกินที่ทิ้งก้นบุหรี่ลงท้องทะเล และมักไม่เคยคิดถึงผลเสียของมัน คำถามสำคัญคือ แล้วทำไมก้นบุหรี่ถึงเป็นภัยร้ายแรงกว่าที่เราเคยคาดคิด?
            คำตอบคือ เพราะหนึ่งในส่วนประกอบที่สำคัญของบุหรี่คือ เซลลูโลส อะซีเตท หรือ เส้นใยอะซีเตทที่หากเรามองง่ายๆ ก็คือหนึ่งส่วนประกอบที่อยู่ในเสื้อผ้าหรือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันเรา เส้นใยอะซีเตท ถ้านับกันจริงๆก็ถือว่าเป็นวัสดุที่มาจากธรรมชาติ แต่ผ่านกระบวนการทางเคมีต่างๆจนกลายเป็นพลาสติกชนิดหนึ่ง ดังนั้นจึงทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่า มันจะสามารถย่อยสลายเองได้ง่ายๆ  แต่แท้จริงแล้ว มันใช้เวลานานกว่าวัสดุจากธรรมชาติจริงๆ อยู่มากกว่าหลายสิบปีเลยทีเดียว ยังไม่รวมถึงหากเมื่อก้นบุหรี่เหล่านั้นย่อยสลาย สารพิษทั้งหมดที่อยู่ในก้นบุหรี่จะถูกปล่อยออกมา ทั้งสารนิโคติน สารหนู สารตะกั่ว และสารก่อมะเร็งอีกหลายชนิด จะถูกปนเปื้อนอยู่ในน้ำทะเลและเป็นพิษต่อสัตว์ทะเลต่างๆ และด้วยจำนวนก้นบุหรี่ที่เยอะกว่าหลายล้านชิ้นลองคิดดูว่าเจ้าสารพิษพวกนี้จะมากขนาดไหน หากยังดูว่าไกลตัวเกินไปจึงอยากให้ลองคิดว่าเราบริโภคสัตว์ที่ถูกจับมาจากทะเล แต่สัตว์เหล่านี้มีสารพิษแฝงอยู่ในตัวคิดดูแล้วกันว่าจะน่ากลัวมากแค่ไหน
            ถึงแม้ว่าอุตสาหกรรมการผลิตบุหรี่ทั่วโลกจะเริ่มตื่นตัว และพยายามมองหาช่องทางและวัสดุการผลิตที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้สูบบุหรี่ทุกคนสามารถเริ่มทำได้เลย โดยไม่ต้องรอพึ่งพาผู้ผลิตแต่เพียงอย่างเดียว นั่นคือการทิ้งก้นบุหรี่ให้ถูกที่ถูกทางและสร้างค่านิยมที่ถูกต้องให้กับสังคมว่า นี่คือหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้สูบบุหรี่ทุกคน ขณะที่ประเทศไทยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้มีคำสั่งห้ามสูบบุหรี่บริเวณชายหาด 20 แห่งทั่วประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหามลภาวะจากก้นบุหรี่ดังกล่าว โดยคำสั่งนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2561 ที่ผ่านมา ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ