หน้าแรก / บทความที่น่าสนใจ
วนกลับมาอีกครั้งกับอีกหนึ่งเทศกาลหยึดยาวของคนไทย แม้ปีนี้จะเต็มไปด้วยปัญหาอย่างเจ้าโควิด-19 ที่มากวนใจ แต่ยังไงประชาชนคนไทยหลายคนยอมเลือกป้องกันตัวเองให้ดีและเดินทางกลับบ้านไปหาพ่อแม่ที่น้องที่ถิ่นฐาน
และเมื่อกลับบ้านสิ่งที่ห้ามไม่ได้คือการเลี้ยงฉลองดื่มกินกันในครอบครัวเพื่อนฝูง จึงทำให้เกิดการเมาแล้วครับมากขึ้น และอุบัติเหตุเพิ่มสูงที่สุด หลายหน่วยงานก็ต้องออกมาเตือนเพื่อช่วยลดอุบัติเหตุจากเมาแล้วขับ
ตามสถิติข้อมูลพบว่า “ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตถึง 22,000 คน ต่อปี บาดเจ็บกว่า 100,000 คน พิการปีละกว่า 50,000 คน และสูญเสียทางเศรษฐกิจกว่า 5 แสนล้านบาทต่อปี” จากอุบัติเหตุเมาแล้วขับ
จากสถิติดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ปัญหาความสูญเสียจากอุบัติเหตุบนท้องถนนยังไม่ได้ถูกจัดให้เป็นเรื่องสำคัญและเร่งด่วนของสังคมไทย เมื่อเปรียบเทียบกับเรื่องอื่น ๆ เช่น ปัญหาการคอร์รัปชัน ปัญหาอาชญากรรม ฯลฯ ทั้งที่ความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนคนไทยจากอุบัติเหตุทางถนนมากมายมหาศาล ส่งผลให้ประเทศไทยสถิติสูงเป็นอันดับ 9 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ทวีปเอเชีย
หนึ่งในข้อเรียกร้องที่สำคัญ คือ เพิ่มโทษคดีเมาแล้วขับ เนื่องจากที่ผ่านมายังมีช่องว่างให้รอลงอาญา แต่หากโทษไม่สามารถรอลงอาญาได้ จะทำให้เกิดความเกรงกลัวมากกว่าเดิม ขณะที่สถานบันเทิง ร้านเหล้าผับบาร์ ต้องมี บริการตรวจวัดแอลกอฮอล์ให้ลูกค้าก่อนออกจากร้าน อย่างน้อยถ้าปริมาณแอลกอฮอล์เกินกำหนดก็ให้นั่งพักก่อน ไม่ปล่อยให้ออกไปขับขี่ เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุต่อชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งมาตรการนี้ในต่างประเทศกฎหมายกำหนดให้ร้านเหล้าต้องร่วมรับผิดชอบด้วย
ดังนั้นปีใหม่ปีนี้จึงอยากจะขอให้ทุกคนมาร่วมลดความเสี่ยง ดังนี้
1. ดื่มไม่ขับ เพราะปริมาณแอลกอฮอล์ 50-100 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เท่ากับเบียร์ 1-2 กระป๋อง ทำให้ตัดสินใจช้าลง 1 วินาที สายตาพร่ามัว ทัศนวิสัยการมองลดลง หากถูกจับมีอัตราโทษตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจศาล
2. ลดเร็วลดเสี่ยง รถยนต์ที่ขับด้วยความเร็ว 80 กม./ชม. มีโอกาสเสียชีวิตเพิ่มขึ้นถึง 60%
3. สวมหมวกนิรภัย ลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตได้ 39% ลดการบาดเจ็บที่ศีรษะได้ 58%
4. คาดเข็มขัดนิรภัย เพื่อลดความเสี่ยงของการเสียชีวิตลงได้ถึง 60%
5. เตรียมพร้อมร่างกาย พักผ่อนให้เพียงพอ เนื่องจากต้องขับรถทางไกล อาจทำให้เกิดการวูบหลับในขณะขับรถได้ ซึ่งควรสังเกตอาการของสัญญาณเตือนหลับใน ได้แก่ หาวบ่อยและต่อเนื่อง กระพริบตาถี่ ใจลอยไม่มีสมาธิ ขับรถส่ายไปมาหรือออกนอกเส้นทาง จำไม่ได้ว่าขับรถผ่านอะไรมา
6. หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนเดินทางไม่ควรกินยาที่มีฤทธิ์ทำให้ง่วงซึม จิบน้ำบ่อย ๆ อย่าให้ขาดน้ำ เพราะการขาดน้ำจะทำให้อ่อนเพลียและเหนื่อยล้าง่าย
7. ควรมีเบอร์ฉุกเฉินเพื่อใช้ติดต่อเมื่อเกิดเหตุ คือ 1669 การแพทย์ฉุกเฉิน 191 แจ้งเหตุด่วน-เหตุร้าย(ตำรวจ) 1115 ตำรวจท่องเที่ยว 1146 กรมทางหลวง 1197 ข้อมูลการจราจร 1543 อุบัติเหตุบนทางด่วน เป็นต้น
เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เป็นสารเสพติดที่ให้โทษต่อสุขภาพของตนเอง และมีผลต่อการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้อื่น เราจึงควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
ผลของแอลกอฮอล์ต่อการขับขี่ ดังนี้
1. ทำให้กล้าเสี่ยงมากขึ้น ทำให้เกิดความประมาทในการขับขี่มากขึ้นเช่นกัน
2. ทำให้รวบรวมสมาธิในการขับขี่ยวดยานพาหนะได้ยากขึ้น
3. มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งต่าง ๆ รอบกายช้าลง
4. ประสิทธิภาพในการมองและการได้ยินแย่ลง